เทรด forex ให้ได้วันละ 1000 บาท

แนวรับ แนวต้าน คือ

แนวรับ แนวต้าน คือ เคลื่อนไหวในลักษณะขึ้นหรือลง การที่กราฟเด้งขึ้นลงนี่แหละ ที่เหล่านักลงทุนเรียกกันว่าแนวรับแนวต้าน

แนวรับ แนวต้าน คือ  Forex สำหรับมือใหม่หัดเทรดอย่างเราคงจะสงสัยว่า แนวรับกับแนวต้านมากจากไหนและคืออะไรกันแน่ เมื่อเราเทรด Forex เราจะเห็นกราฟ forex เคลื่อนไหวในลักษณะขึ้นหรือลง การที่กราฟเด้งขึ้นลงนี่แหละ ที่เหล่านักลงทุนเรียกกันว่าแนวรับแนวต้านหรือ Support and Resistance Level นั่นเอง ซึ่งประโยชน์ของเส้นกราฟที่เรียกว่าแนวรับแนวต้านนั้นก็คือ เป็นตัวช่วยให้กับนักลงทุนในการวิเคราะห์กรอบราคาของตลาด ทำให้นักลงทุนหรือนักเทรดทุกคนวางแผนได้ว่าจะเข้าออกออเดอร์ตอนไหน อีกทั้งยังช่วยในการทำนายทิศทางของราคาในอนาคตได้อีกด้วย เรามาดูรายละเอียดของแนวรับและแนวต้านให้ละเอียดมากขึ้นอีกกันดีกว่า

หัวใจสำคัญของการเทรด Forex คือแนวรับแนวต้าน เข้าใจเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำกำไรได้แล้ว แต่การตีเส้นแนวรับแนวต้าน ไม่ใช่เพียงแค่เส้นแนวนอนที่ตีเอาไว้ให้ดูเท่ห์ แต่จะต้องมีเหตุผลหรือทฤษฎีรองรับ เพื่อที่จะสามารถใช้ได้และหาเป็น ด้วยเทคนิคในการหาแนวรับแนวต้านง่าย ๆ ตามมาดูกันได้เลย

แนวรับแนวต้าน Forex คือหัวใจสำคัญในการเทรด ไม่ว่าจะเทรดสินทรัพย์ประเภทไหน จะหนีสิ่งนี้ไปไม่ได้ เพราะแนวรับแนวต้าน เป็นบริเวณสำคัญที่จะบอกให้เทรดเดอร์รู้ว่า จุดไหนควรเข้าซื้อ หรือจุดที่ไหนที่ควรขาย

แนวรับแนวต้านในตลาด Forex ก็คือหัวใจสำคัญจุดซื้อขาย เพราะถ้าอยากมีกำไรและเข้าในบริเวณที่ปลอดภัย จะต้องซื้อที่แนวรับและขายที่บริเวณแนวต้าน แต่ถ้าเผลอไปซื้อที่แนวต้าน อาจจะติดดอยเลยก็ได้ ถ้าหากว่ากราฟเกิดการกลับตัว หรือถ้าขายในบริเวณแนวรับ ก็อาจจะเป็นการขายในราคาที่ถูกเกินไป เมื่อกราฟเกิดการเด้งกลับเมื่อเจอแนวรับ ก็จะติดลบในทันที

แนวรับแนวต้าน Forex คือหัวใจสำคัญที่เทรดเดอร์ทุกคนจะมองข้ามไม่ได้เลย แต่การหาแนวรับแนวต้าน ไม่ใช่เพียงแค่ตีเส้นแนวนอนตรง ๆ เท่านั้น จะต้องมีเหตุผลในการตีด้วย และการตีแนวรับแนวต้านก็สามารถตีได้หลากหลายวิธี ลองมาดูเทคนิคในการหาแนวรับแนวต้านง่าย ๆ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

แนวรับ support เกิดขึ้นจากอะไร

การเกิดแนวรับนั้นเกิดขึ้นจากกราฟราคาปรับตัวลดลงไปยังจุดที่จูงใจให้นักเทรดตัดสินใจซื้อ “Buy” ระดับของราคาต่ำสุดจะถูกเรียกว่า แนวรับ หรือ support โดยกราฟราคาในส่วนนี้จะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต

แนวต้าน Resistance เกิดขึ้นจากอะไร

สำหรับแนวต้านจะเกิดจากกราฟราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงจนถึงจุดที่นักเทรดจะเกิดแรงจูงใจให้ขาย “Sell” ระดับของกราฟราคาที่สูงขึ้นนี้ จะถูกเรียกว่า แนวต้าน หรือ Resistance โดยกราฟราคาในส่วนนี้จะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงไปอีกในอนาคตข้างหน้า

ระดับและทิศทางของกราฟราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวขึ้นไปเรื่อย ๆ ได้ จึงทำให้เกิดแนวรับและแนวต้านในระดับที่แตกต่างออกไปได้ ซึ่งกราฟราคาที่เคยถูกเรียกว่าแนวต้านในอตีด สามารถที่จะกลายเป็นแนวรับในปัจจุบันไปแทนได้ และจุดที่เคยเป็นแนวรับมาก่อนก็สามารถที่จะกลายเป็นแนวต้านในอนาคตได้เช่นเดียวกัน นั่นก็เนื่องจากว่านักลงทุนมีแรงซื้อหรือลงทุนมากน้อยแค่ไหน ระดับของราคาก็จะขยับตัวสูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

วิธีหาแนวรับแนวต้านง่าย ๆ แต่ใช้ได้จริง

1 บริเวณที่มีราคากลับมาเทส ตั้งแต่สองครั้งขึ้นไป โดยมองไปที่จุดกลับตัวของราคา แล้วมองย้อนกลับไปว่า บริเวณนั้นเคยมีราคาเคยกลับตัวบริเวณนี้หรือไม่ ถ้ามีมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป สามารถตีเส้นแนวนอนไว้ได้เลย เพราะบริเวณนั้นเป็นแนวรับหรือแนวต้าน ที่มีราคากลับมาเทสบ่อย ๆ นั่นเอง ถือว่าเป็นจุดที่มีผู้คนรอซื้อหรือขายอยู่นั่นเอง

2 แนวรับเปลี่ยนเป็นแนวต้าน แนวต้านเปลี่ยนเป็นแนวรับ กรณีที่กราฟเป็นแนวโน้ม ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือลง นั่นก็คือกราฟจะต้องทำ swing high หรือ swing low และเมื่อกราฟย่อตัวกลับมา swing high หรือ swing low นั่นแหละที่จะทำหน้าที่เป็นแนวรับหรือแนวต้าน ในแนวโน้มขาขึ้น swing high ที่เคยเป็นแนวต้านก็จะกลายเป็นแนวรับ ในแนวโน้มขาลง swing low ที่เคยเป็นแนวรับก็จะกลายเป็นแนวต้าน เสมือนว่าบริเวณนั้นมีผู้คนรอซื้อหรือขาย บางคนผิดทางรอที่จะแก้ไม้อยู่นั่นเอง

3 แนวต้านจิตวิทยา รายใหญ่ในตลาด ส่วนมากมักจะไม่ใช้การเทรด้วยมือ แต่ส่วนใหญ่จะใช้ AI หรือระบบเทรดอัตโนมัติ ดังนั้นการที่จะตั้งโปรแกรมในการเข้าเทรด เพื่อให้ง่ายต่อการวางออเดอร์ล่วงหน้า การใส่เลขในระบบที่เป็นเลขกลม ๆ จึงเป็นเรื่องง่าย บริเวณราคาที่ลงท้ายด้วยเลขกลม ๆ อาจจะเป็นแนวรับแนวต้านทางจิตวิทยาได้ ตัวอย่าง EUR/USD 1.20500 21200 เป็นต้น

4 จุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุด เป็นจุดที่กราฟเคยกลับตัว และเป็นบริเวณที่ราคาไปถึงได้ยาก หรือนาน ๆ จะไปถึงสักครั้ง ก็นับว่าเป็นแนวรับแนวต้านได้เช่นกัน ผู้คนส่วนใหญ่จะเฝ้าระวังว่าจะผ่านจุดนั้นไปได้หรือไม่ หรืออาจจะมีรายใหญ่ที่เคยทำการซื้อหรือขายด้วยปริมาณเป็นมาก ๆ ทำการซื้อหรือขายอีกครั้งก็เป็นได้

การหาแนวรับแนวต้าน Forex คือการหาจุดที่คิดว่าจะมีการซื้อหรือขายของผู้คนในตลาด เพราะการที่จะสามารถเก็งกำไรได้ ก็จะต้องเข้าไปยังทิศทางเดียวกับผู้คนส่วนใหญ่ในตลาด เพราะเงินทุนเพียงน้อยนิดของเทรดเดอร์รายย่อย จะไม่สามารถเปลี่ยนแนวโน้มของราคาได้เลย

แนวรับแนวต้าน Forex เป็นการทำกำไร ถ้าหาแนวรับแนวต้านได้และใช้เป็น ก็สามารถทำกำไรได้แล้ว เพียงแต่จะต้องฝึกฝนในการหาให้ชำนาญ และเมื่อนั้นจะเข้าใจและคาดการณ์การเคลื่อนที่ของราคาได้ ไม่ว่าเทรดด้วยทฤษฎีไหนก็ต้องใช้ ทำไมไม่ฝึกการใช้แนวรับแนวต้านให้ชำนาญไปเลยล่ะ

ทำอย่างไรถ้าแนวรับแนวต้านถูกทำลาย

จากเนื้อหาก่อนหน้าเราพูดถึงว่า เกิดสัญญาณ แนวรับแนวต้านหลอก ทำให้การวิเคราะห์ และจุดเข้าเทรดทำได้ยาก โดยที่ราคาเบรคแนวรับและแนวต้านนั้นไปแล้ว ทำให้เราไม่สามารถใช้แนวรับแนวต้านนั้นได้อีก ดังตัวอย่างต่อไปนี้

ภาพ แนวรับแนวต้านถูกทำลาย

แนวรับแนวต้านถูกทำลาย ทั้ง 2 จุด โดยที่หลังจากถูกทำลายครั้งแรกทำให้แนวรับแนวต้านเดิมหมดความน่าเชื่อถือไปตั้งแต่แรกแล้ว ฉะนั้น เมื่อเกิดแนวรับและแนวต้านถูกทำลายสิ่งที่เราควรจะทำคือ เลิกใช้แนวรับแนวต้านเดิมและรอให้มันเกิดแนวรับแนวต้านใหม่อีกครั้งเท่านั้น

แต่สิ่งที่พึงระลึกไว้สำหรับการใช้แนวรับแนวต้าน คือ ถ้าหากมันเจอแนวรับแนวต้านใหม่แล้ว ควรเลิกใช้แนวรับและแนวต้านเดิม การเบรคแนวรับแนวต้านนั้นจะต้องยกเลิกสัญญาณเดิมให้หมด ลบอออกไปจากสาระบบได้เลยยิ่งดี

ประเภทของแนวรับแนวต้านที่มือใหม่ควรรู้ไว้มีอะไรบ้าง

แบบดั้งเดิมหรือ แบบ swing highs and low

นี่คือลักษณะของแนวรับแนวต้านที่เป็นแบบพื้นฐานที่สุด โดยดูได้จากช่วงเวลายาว ๆ กว้าง ๆ เช่น week หรือ monthly ซึ่งเมื่อซูมภาพออกดูกว้าง ๆ ก็จะเห็นกรอบราคาด้านบนและด้านล่างได้อย่างง่ายๆ

แบบ swing point level

กราฟราคาในรูปแบบนี้เรียกว่า แนวรับเก่า แนวต้านใหม่ นั่นก็เพราะว่า เมื่อเกิดเทรนราคาขาขึ้นขาลงไปเรื่อยๆสักระยะก็จะเกิดการ pull back คือกราฟย้อนกลับมาทางเดิม การเกิดจุด pull back จะเป็นช่วงเวลาที่ดีเพราะแนวต้านที่พลิกกลับมาเป็นแนวรับเป็นจุดที่จะทำให้นักลงทุนเกิดผลกำไรสูงขึ้นได้ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ นักลงทุนหรือนักเทรดก็สามารถที่จะเดาทิศทางของราคาหรือสภาพตลาดได้ง่ายขึ้น

แบบ Swing point level as containment and risk management

ลักษณะของกราฟนี้เราสามารถใช้การแกว่งสูงต่ำเป็นจุดเสี่ยงเพื่อกำหนดทิศทางในการเทรดครั้งต่อไปได้ กล่าวคือ เมื่อกราฟราคาแนวรับทะลุผ่านกรอบไปราคาแล้วแนวรับจะกลายเป็นแนวต้านทันที เราจึงต้องรีบ sell ในขณะที่ราคายังอยู่ภายในกรอบราคาหรือใกล้กรอบราคาแนวต้าน วิธีนี้จะช่วยให้เรารู้ความเคลื่อนไหวของราคาและกำหนด stop loss ได้ถูกจุด

แบบ Dynamic support and resistance levels

แนวรับ แนวต้าน รูปแบบนี้จะดูการเคลื่อนที่แบบค่าเฉลี่ย Moving average คือ ดูการเคลื่อนไหวของราคาสูงต่ำที่ตั้งไว้ เช่น ค่า 50-period MAs, 100-period MAs และ 200-period MAs การดูกราฟราคารูปแบบนี้นิยมใช้ใน timeframe ระยะสั้น ๆ แบบ daily หรือรายวัน หรือสัปดาห์ก็ได้ จำไว้ว่า ตลาดที่มีความผันผวนต่ำก็จะเรียกใช้ EMA ที่ต่ำลง เช่น อยู่ที่ 50-period หรือต่ำกว่านั้น

รูปแบบของกราฟราคาก็มีความแตกต่างกันออกไป ตามลักษณะการตั้งค่าของช่วงเวลาและขนาดการลงทุนของนักเทรดแต่ละคน หากเราตั้งใจฝึกฝนและเข้าใจแนวรับแนวต้าน เราก็สามารถที่จะเข้าใจสภาพราคาของตลาดได้ง่ายขึ้นและจับทิศทางในการเทรดที่ปลอดภัยได้มากขึ้นไปอีกด้วย เราก็จะลดความเสี่ยงในการเปิดออเดอร์ของเราในแต่ละครั้งได้

อินดิเคเตอร์สำหรับตรวจหาแนวรับและแนวต้าน forex

การหาจุดแนวรับแนวต้าน ตามที่ได้อ่านมาแบบทฤษฎีนี้ก็ดูเหมือนว่าจะหาได้ง่าย ๆ แต่ความจริงอาจจะยากกว่าที่คิด จึงจำเป็นที่จะต้องใช้อิรดิเคเตอร์ช่วยหาอีกแรง เพื่อที่เราจะได้ไม่พลาดท่าหรือโอกาสดีๆ ในการทำกำไรงามจากการเทรด forex ไปอย่างน่าเสียดาย เรามาดูกันว่า indicator ไหนบ้างที่ช่วยหาแนวรับ แนวต้านได้

  • Fibonacci

อินดิเคเตอร์ตัวนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากสำหรับนักเทรดทางเทคนิค อินดิเคเตอร์ Fibonacci จะจับการเคลื่อนไหวของกราฟราคาและสภาพแนวโน้มของราคาที่แข็งแกร่งอย่างละเอียด นักเทรดจะทำการออเดอร์ซื้อและขายและทำกำไรตามช่วงเวลาที่ตั้งค่าไว้บน Fibonacci นักเทรดจะเป็นผูเลือกช่วงเวลาที่อยากจะใช้กับอินดิเคเตอร์นี้ การเลือกช่วงเวลาที่แตกต่างกันทำให้นักเทรดมองระดับ Fibonacci ที่แตกต่างกันออกไป

ตัวนี้ใช้สำหรับดูราคาตลาดที่มีสภาพคล่องสูง ที่มีการซื้อขายกันตลอดเวลา ซึ่งสามารถปรับ timeframe เป็น 5 นาที และปรับ Moving Average เป็น 200 ได้ เป็นต้น อินดิเคเตอร์ตัวนี้จะเป็นตัวช่วยเน้นให้เห็นช่วงเวลาที่เราควรเทรด คือจะมีแยวเส้นที่ทำให้เรารู้ว่าราคาแข็งพอที่จะเทรด ช่วยลดความเสี่ยงไปได้อีกขั้น

  • Oscillator

อินดิเคเตอร์ตัวนี้จะใช้หาแนวรับแนวต้าน ด้วยวิธีการแลกเปลี่ยน Transaction จุดที่เป็น Overbought หรือ Oversold ที่พีคเกิน 30 หรือ 70 ไป จุดนั้นมักจะเป็นจุดที่จะเกิดการแพ้ชนะของผู้ซื้อและผู้ขายแบบกระทันหันมาก เพราะจะเกิดการกระชากราคากลับมา ซึ่งจุดนั้นก็จุดแนวรับแนวต้านนั่นเอง

  • Admiral Pivot

อินดิเคเตอร์ตัวนี้จะระบุแนวรับแนวต้านในเลยอัตโนมัติ โดยการคำนวณจากราคา High, Low และราคาปิด ของช่วงเวลาที่ผ่าน ๆ มา โดยตัวนี้จะใช้เทคนิคการหาแนวรับแนวร่วมแบบเดียวกันกับ Moving Average คือจะสามารถยืนยยันความแข็งแกร่งของแนวรับแนวร่วมได้อย่างชัดเจน

การหาจุดของแนวรับแนวต้าน support and resistance level นั้นมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจเปิดออเดอร์ forex เป็นอย่างมาก หากเราสามารถที่จะสังเกตเห็นแนวรับแนวต้านที่ชัดเจน เราก็สามารถคาดเดาและวางแผนการเทรดของเราได้ดีขึ้น อีกทั้งยังสามารถรอจังหวะที่จะคว้ากำไรก้อนโตได้แบบกระทันหันเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะนักเทรดรุ่นไหนหรือระดับไหนก็ไม่ควรพลาดกับเทคนิคการเทรดแบบดูแนวรับแนวต้านนี้โดยเด็ดขาด

ประโยชน์ของ การรู้เรื่องเส้น แนวรับ แนวต้าน

1.สามารถใช้หาจุดในการเปิดสัญญา Buy หรือ สัญญา Sell ได้อย่างง่ายๆ เพียงแค่ดูว่าราคาเข้าใกล้สู่เส้นแนวรับแนวต้านมากน้อยเพียงใด เป็นต้น แต่ว่าคุณอาจต้องใช้คู่กับอินดี้ตัวอื่นๆ ด้วยนะครับ ไม่ใช่ใช้แค่ตัวเดียวแล้วจบเลย

2.ช่วยให้มองเห็นกรอบราคาของการวิ่งได้ ข้อดีประการต่อมาคือช่วยให้เรามองเห็นกรอบราคาของการวิ่งไปได้อย่างชัดเจน ตรงนี้เรามักจะลากทั้งเส้นแนวรับและเส้นแนวต้านควบคู่กันไปพร้อมๆกันนั่นเองครับ

 

สรุป

ตลอดการเทรด forex ของคุณ คุณไม่มีทางที่จะหนีได้เลยกับคำว่าแนวรับ และแนวต้าน ดังนั้น จงเตรียมพร้อมที่จะทำความเข้าใจและพร้อมที่จะศึกษาเรื่องของการใช้เครื่องมือหรือกลยุทธ์ใดๆ เพื่อการเขียนเส้นแนวรับและแนวต้านออกมาให้ได้ แล้วมันจะช่วยให้คุณเทรด forex ง่ายขึ้น มีความสะดวกขึ้นในการเทรด มากกว่าที่จะปฏิเสธ แน่นอนว่ามันไม่มีกลยุทธ์ใด ที่มีความยั่งยืน หรือเทรดได้ 100 % แต่ว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เมื่ออยู่รวมกันก็จะทรงพลังมากขึ้น

 

รีวิว แจกซิกแนลในห้องไลน์ ทั้งทอง และคู่สกุลเงิน ทำกำไร Forex

สอบถามเพิ่มเติมเข้ากลุ่มไลน์ กดลิ้งนี้ได้เลย http://bit.ly/thaiforexfamily

 

โบรกเกอร์ FOREX ที่แนะนำ

ข้อดีและข้อเสีย อัพเดทล่าสุดปี 2021 รายละเอียดแบบชัดเจนทุกประเด็น ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ใบอนุญาต Forex ประเภทบัญชีซื้อขาย แพลตฟอร์ม MT4, MT5 ช่องทางการฝากเงิน ช่องทางการถอนเงิน โบนัส โปรโมชั่นต่างๆ งานสัมมนาหรือกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเทรด ช่องทางการติดต่อและช่วยเหลือจาก Support